Header Ads

หงส์จัดหนักบุกกุหลาบไฟนัดรีเพลย์เอฟเอ


  เกมเอฟเอ คัพ นัดรีเพลย์ค่ำวันนี้ ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูลของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มีคิวไปเยือน ''กุหลาบไฟ'' แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมในแชมเปี้ยนชิพ โดยคู่นี้หากทีมไหนชนะ ก็จะผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับ แอสตัน วิลล่า ที่ยืนรออยู่แล้ว สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมเป็นอย่างไรไปดูกันครับ


ปรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คัพ
รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดรีเพลย์

วันพุธที่ 8 เมษายน 2558
แบล็คเบิร์น (แชมเปี้ยนชิพ) - ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7



สนาม : อีวู้ด พาร์ค

          แบล็คเบิร์นของ แกรี่ โบวเยอร์ เรียกความมั่นใจด้วยการบุกถล่มลีดส์ ยูไนเต็ด 3-0 โดยเตรียมกลับมาเปิดรังรับมือลิเวอร์พูลในนัดรีเพลย์เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ หลังบุกเสมอที่แอนฟิลด์ 0-0

          ความพร้อมล่าสุด รูดี้ เชสเตเด้ และ คริส บราวน์ เดี้ยงจากเกมกับ ''ยูงทอง'' ตามไปสมทบแข้งเจ็บก่อนหน้านี้อย่าง ไซม่อน อีสต์วู้ด, คริส เทย์เลอร์, เคร็ก คอนเวย์, แกรนท์ แฮนลี่ย์, โจชัว คิง, เดวิด ดันน์, เชน ดัฟฟี่ และ เจสัน โลว์

          ขณะที่ เจย์ สเพียริง, พอล เทย์เลอร์, ดาบิด ราย่า และ จอห์น โอซัลลิแวน ชวดทั้งหมดเนื่องากติดคัพไทในรายการนี้

          เจสัน สตีล รับหน้าที่ผู้รักษาประตู อเล็กซ์ แบ็ปติสต์ ดูแลหลังบ้านร่วมกับ แม็ทธิว คิลกัลล่อน แดนกลางฝากไว้กับ 3 ประสาน คอร์รี่ อีแวนส์, ดาร์แร็กห์ เลนิแฮน และ ลี วิลเลียมสัน ขณะที่แดนหน้าฝากความหวังไว้กับ จอร์แดน โร้ดส์

          ลิเวอร์พูลของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ประสบปัญหาฟอร์มดร็อปหลังปราชัย 2 นัดติด ล่าสุดออกไปโดนอาร์เซน่อลถลุงยับ 4-1 ต่อเนื่องจากการแพ้แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2

          สภาพทีมล่าสุด สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ มาร์ติน สเคอร์เทล ชดใช้โทษแบนนัดที่ 2 จากทั้งหมด 3 นัด แถมมาเสีย เอ็มเร่ ชาน ที่โดนกักแข้งจากการโดนไล่ออกในเกมล่าสุดด้วย

          สำหรับ อดัม ลัลลาน่า (ขาหนีบ) ต้องรอเช็กฟิตหลังเจ็บมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

          ส่วน จอน ฟลานาแกน สลัดเดี้ยงกลับมาซ้อมแล้วแต่ยังไม่พร้อมคืนสนามเนื่องจากต้องเรียกความฟิต อีกสักระยะ ขณะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์จนไม่ได้เล่นในเกมล่าสุด กลับมาซ้อมตามปกติแล้ว โดยเหลือ จอร์ดอน ไอบ์ (เข่า) เป็นเพียงรายเดียวที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บ

          ซิมง มิโญเล่ต์ เฝ้าประตูตามปกติ แนวรับส่ง เดยัน ลอฟเรน เสียบแทน เอ็มเร่ ชาน ในการประสานงานกับ โคโล ตูเร่ และ มามาดู ซาโก้ แดนกลางถ่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกไปเป็นวิงแบ็กขวา ส่วนตรงกลางไว้ใจ โจ อัลเลน กับ ลูคัส เลวา แนวรุกจัด ราฮีม สเตอร์ลิง กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ปั้นเกมป้อน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่กลับมาเป็นหัวหอกตัวจริง

          รายชื่อที่คาดว่าจะลงสนาม 
          แบล็คเบิร์น (4-5-1) : เจ สัน สตีล - อดัม เฮนลี่ย์, อเล็กซ์ แบ็ปติสต์, แม็ทธิว คิลกัลล่อน, มาร์คุส โอลส์สัน - ทอม แคร์นี่ย์, คอร์รี่ อีแวนส์, ดาร์แร็กห์ เลนิแฮน, ลี วิลเลียมสัน, เบน มาร์แชลล์ - จอร์แดน โร้ดส์
          ลิเวอร์พูล (3-4-2-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เดยัน ลอฟเรน, โคโล ตูเร่, มามาดู ซาโก้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลวา, โจ อัลเลน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - แดเนียล สเตอร์ริดจ์
          ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์


 เกร็ดที่น่าสนใจก่อนเกม
 - แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ยิงไป 10 ประตู จาก 13 นัดหลังสุดที่ลงตัวจริงในเอฟเอ คัพ
 - ลิเวอร์พูลเก็บคลีนชีตได้เพียง 4 จาก 21 นัดหลังสุดในเอฟเอ คัพ
 - มีถึง 5 จาก 6 นัดหลังสุดของแบล็คเบิร์นในเอฟเอ คัพ ที่คู่แข่งของพวกเขาโดนใบแดง
 - แบล็คเบิร์น และ ลิเวอร์พูล พบกันในเอฟเอ คัพ มา 9 ครั้ง โดยกุหลาบไฟเข้ารอบ 4 และหงส์แดงเข้ารอบ 5 (2 ครั้งหลังจากต้องเล่นรีเพลย์)
 - ลิเวอร์พูลทำได้ 2 ประตูต่อนัดมาตลอด 8 เกมหลังสุดที่พวกเขาเอาชนะในเอฟเอ คัพ (6 นัด 2-1, 2 นัด 2-0)
 - หงส์แดงผ่านเข้ารอบ 15 จาก 16 ครั้งหลังสุดที่พวกเขาทะลุเข้ามาเล่นเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
 - ก่อนหน้านี้ แบล็คเบิร์น และ ลิเวอร์พูล เคยพบกันในรอบก่อนรองชนะเลิศเพียงครั้งเดียว โดยกุหลาบไฟชนะ 2-1 เมื่อปี 1958
 - สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ติดโทษแบนในเกมนี้ ลงประเดิมพรีเมียร์ลีกนัดแรกพบแบล็คเบิร์น และก็ยิงไป 4 ประตู จาก 6 เกมหลังสุดที่ลงตัวจริงพบกุหลาบไฟ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.