ระหว่างซิตี้กับยูไนเต็ด ในเมืองแมนเชสเตอร์ คุณคิดว่ามีแฟนบอลของทีมไหนมากกว่ากัน?

     โทษฐานที่แมนฯ ยูไนเต็ดกับแมนฯ ซิตี้จะทำการศึกระดับอภิพญามหายุทธกันอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้

        เรื่องที่ว่าในเมืองแมนเชสเตอร์มีแฟนบอลของ ''ยูไนเต็ด'' หรือ ''ซิตี้'' มากกว่ากัน จึงถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นอีกครั้ง

        แล้วเมื่อวันก่อนครับขณะกำลังขับรถกลับบ้านกลางดึก หูของผมก็ได้ยินเสียงของผู้ดำเนินรายการทางวิทยุคลื่นหนึ่งอ่านข้อความของท่านผู้ฟังทางบ้านที่ส่งความสงสัยเข้ามาถามประมาณว่า ''ในเมืองแมนเชสเตอร์มีแฟนบอลของทีมไหนมากกว่ากัน?''

        คุณพี่เขาเกริ่นถึงเรื่องนี้เล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า...ว่า...ว่า...ว่า...ว่า...???

        อยากรู้กันใช่ไหมล่ะว่าพี่แกจะตอบว่าอะไร อิอิอิ

        ขอยังไม่เฉลยบนบรรทัดนี้นะครับ

        ที่แน่ๆ คือผมเคยอธิบายถึงเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว ไม่น่าจะต่ำกว่า 3-4 ครั้งด้วยซ้ำทั้งในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้และในนิตยสาร ''แฟนผี'' Project เขียนจนขี้เกียจฉายซ้ำ โดยอ้างอิงจากทั้งข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ได้รับและค้นหามา ซึ่งในเมืองหลวงแห่งลูกหนังอย่างประเทศอังกฤษเองก็มีการถกเถียงถึงเรื่องนี้มาตลอด ไม่ได้คิดเองแล้วก็เออเองตามความเชื่อส่วนตัวแต่อย่างใด

        ว่าแล้วขอยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า ในเมืองแมนเชสเตอร์ (หมายถึง ) มีแฟนบอลของทีมปีศาจแดงมากกว่าครับ

        แน่นอนว่าผมไม่ได้อุปโลกน์ขึ้นมาเอง

        ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 หนังสือพิมพ์แมนเชสเตอร์ อิฟนิ่ง นิวส์เคยสำรวจว่า ในเมืองแมนเชสเตอร์มีแฟนบอลของทีมไหนมากว่ากัน โดยทำการสำรวจแบบลงพื้นที่ไปตามเขตต่างๆ ในเมืองแมนเชสเตอร์

ยอดจำหน่ายเสื้อแข่งของแมนฯ ซิตี้ ตามเมืองต่างๆ โดย “สปอร์ตไดเร็กต์”

        ผลสำรวจออกมาค่อนข้างสูสีกันมากครับ โดยพบว่าแฟนบอลของแมนฯ ซิตี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตสต็อคพอร์ท, เทมส์ไซด์ และโอลด์แฮม

        ส่วนแฟนบอลของแมนฯ ยูไนเต็ดส่วนใหญ่อาศัยอยู่แถวซัลฟอร์ด, รอชเดล, เอ็คเคิ่ล และวอร์สลี่ย์

        ตามแผนที่ที่ผมนำมาเป็นภาพประกอบนั่นแหละครับ ที่จุดสีแดง (อันหมายถึงแฟนบอลของแมนฯ ยูไนเต็ด) มีมากกว่าจุดสีฟ้า (แฟนบอลของแมนฯ ซิตี้) เล็กน้อย

        นี่คือหนึ่งในหลักฐานสำคัญ

        ทีนี้มาดูหลักฐานต่อมาครับ

        คือเมื่อเร็วๆ นี้ทางมหาวิทยาลัย ''แมนเชสเตอร์ เมโทโปลีแทน'' ได้ทำการสำรวจว่าในเมืองของตัวเองมีแฟนบอลทีมไหนมากกว่ากัน โดยวัดจากผู้เป็นเจ้าของ ''ตั๋วปี'' หรือ ''ซีซั่น ทิคเก็ต'' ของทั้ง 2 สโมสร

        แมนฯ ยูไนเต็ดมีผู้ถือตั๋วปีทั้งหมด 27,500 คน ขณะที่แมนฯ ซิตี้มีผู้ถือตั๋วปีทั้งหมด 16,500 คน

        จาก 27,500 คนที่เป็นเจ้าของตั๋วปีของแมนฯ ยูไนเต็ด จัดเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ทั้งหมด 7,975 คน

        และจาก 16,500 คนที่เป็นเจ้าของตั๋วปีของแมนฯ ซิตี้ จัดเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ทั้งหมด 6,600 คน

        จะเห็นได้ว่ามันไม่ได้เยอะกว่ากันสักเท่าไหร่ แค่พันคนเศษๆ เท่านั้น แต่ก็ไม่น้อยกว่าอย่างแน่นอน

        นอกจากนี้ ม.แมนเชสเตอร์ เมโทรโปลีแทนยังรายงานต่อมาว่า แมนฯ ยูไนเต็ดมีจำนวนผู้ชมเฉลี่ยต่อนัดมากกว่าแมนฯ ซิตี้มาตั้งแต่ปี 1946

ยอดจำหน่ายเสื้อแข่งของแมนฯ ยูไนเต็ด ตามเมืองต่างๆ โดย “สปอร์ตไดเร็กต์”

        แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงโด่งดังกว่าแมนฯ ซิตี้ และโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของพวกเขามีความจุผู้ชมมากกว่าสนามของเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญมาตลอด แถมจำนวนผู้ชมยังเต็มความจุเกือบทุกนัด

        คำถามคือผู้ชมส่วนใหญ่ในโรงละครแห่งความฝันมาจากไหน เฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 20 ปีหลังที่แมนฯ ยูไนเต็ดสถาปนาตัวเองเป็นมหาอำนาจลูกหนังจนถูกค่อนขอดว่าเป็นความภูมิใจของชาวเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

        พูดง่ายๆ ว่าที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดนั้นอุดมด้วยชาวต่างชาติ หรือคนเมืองอื่นที่ไม่ใช่แมนคูเนี่ยนขนานแท้และดั้งเดิม

        แต่สถิติผู้ชมโดยเฉลี่ยต่อนัดของแมนฯ ยูไนเต็ดที่มากกว่าแมนฯ ซิตี้มาตั้งแต่ปี 1946 มันก็บ่งชัดนะครับว่า ชาวแมนคูเนี่ยนยอมขายวิญญาณให้ปีศาจแดงมากกว่ามาตั้งนานแล้ว

        เพราะย้อนกลับไปสมัยโน้น ชาวต่างชาติ รวมถึงชาวเอเชียคงไม่ทะลึ่งขึ้นเรือเดินสมุทรใช้เวลาเดินทางนานเป็นเดือนๆ เพื่อมาดูทีมรักของตัวเองที่แมนเชสเตอร์หรอกครับ

        ปัจจุบันโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดมีความจุผู้ชม 75,769 คน ขณะที่เอติฮัด สเตเดี้ยมมีความจุผู้ชม 47,726 คน

        ผลต่างคือ 28,043 คน

        ถ้าคิดว่าจำนวนผู้ชมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดมากกว่าเพราะชาวต่างชาติ ถามว่าต่อหนึ่งนัดชาวต่างชาติเดินทางมาดูบอลที่บ้านของแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นหมื่นๆ คนเลยหรือ?

        ชาวต่างชาติที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเยอะจริงครับ โดยเฉพาะพวกอาว์ตี๋ & อาว์หมวย รวมถึงอาว์บัง แต่มันคงไม่ถึง 2-3 หมื่นคนต่อนัดแน่นอน

        ล่าสุดไม่กี่สัปดาห์ก่อน บริษัทขายอุปกรณ์กีฬาชื่อดังอย่าง ''สปอร์ตไดเร็กต์'' เปิดเผยยอดจำหน่ายเสื้อแข่งของแต่ละสโมสรตามเมืองต่างๆ ของอังกฤษในฤดูกาล 2014-15

        เสื้อแข่งของแมนฯ ยูไนเต็ดจำหน่ายได้มากที่สุดในลอนดอน คิดเป็น 44.71% รองลงมาคือดับลิน 14.62% อันดับ 3 คือแมนเชสเตอร์ 10.33%

ยอดจำหน่ายเสื้อแข่งของทั้ง 2 สโมสรที่เมืองแมนเชสเตอร์ โดย “สปอร์ตไดเร็กต์”

        เสื้อแข่งของแมนฯ ซิตี้ก็จำหน่ายได้มากที่สุดในราชธานีของอังกฤษเหมือนกัน คือ 27.95% แต่กลับมียอดจำหน่ายในเมืองแมนเชสเตอร์เพียง 4.72% เท่านั้นครับ

        แต่หากวัดเฉพาะในเมืองแมนเชสเตอร์

        ผลปรากฏว่า...

        ยูไนเต็ด 94.57%

        ซิตี้ 5.43%

        โอ้วซ์ซ์ซ์...ทำไมตัวเลขมันถึงแตกต่างกันมากมายขนาดนั้น

        หรือกองเชียร์ที่เรียกตัวเองว่า ''เดอะ ซิติเซนส์'' ในเมืองแมนเชสเตอร์ที่ภูมิใจนักภูมิใจหนาว่าเป็นแฟนบอลตัวจริง ไม่ชอบซื้อเสื้อทีมตัวเองมาใส่

        หลักฐานทั้งหมดที่ยกมาน่าจะเพียงพอที่จะยืนยันได้นะครับว่า แฟนบอลของแมนฯ ยูไนเต็ดในเมืองแมนเชสเตอร์นั้นมิได้น้อยไปกว่าแฟนบอลของแมนฯ ซิตี้ ตามที่ใครหลายคนเข้าใจ

        ย้อนกลับไปตอนที่ผมกำลังขับรถกลับบ้านอีกครั้ง

        ก่อนที่ผู้ดำเนินรายการทางวิทยุจะตอบผู้ฟังทางบ้านว่า ชาวแมนเชสเตอร์เชียร์ทีมไหนมากกว่ากัน ผมพูดในใจว่า ''อย่า...อย่า...อย่า...อย่าเชียวนะมึง อย่าบอกว่าแมนฯ ซิตี้นะ อย่านะ...อย่าทำให้คนฟังเข้าใจผิดด้วยความไม่รู้และไม่ยอมหาข้อมูลอีกเลย''

        ทันใด คุณพี่เขาตอบผ่านทางวิทยุด้วยน้ำเสียงมั่นใจแบบเต็มประดา

        ''แมนเชสเตอร์ ซิตี้!''

        เข้!...กูว่าแล้ว ผมอุทานในใจ แถมเหตุผลของคุณพี่เขาก็สุดยอดมากครับคือ ''เค้าบอกว่า''

        ''เค้าบอกว่าในเมืองแมนเชสเตอร์มีแฟนบอลของแมนฯ ซิตี้มากกว่า''

        ว่าแต่ว่า ''เค้า'' นี่มันใคร และใครคือ ''เค้า''

        เข้าใจว่า ''เค้า'' คงไม่มีตัวตนแท้จริง เพียงแต่พูดต่อๆ กันมาตาม ''วาทะกรรม'' ที่แฟนบอลของแมนฯ ซิตี้พยายามสร้างขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนปมด้อยของตัวเอง โทษฐานที่เป็นลูกไล่ของแมนฯ ยูไนเต็ดมาตลอด

        เมื่อเทียบความยิ่งใหญ่กับอีกสโมสรในเมืองเดียวกันไม่ได้ - แฟนบอลทีมเรือใบสีฟ้าเลยสร้าง ''วาทะกรรม''นี้ขึ้นมา เพื่อทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมที่แฟนบอลส่วนใหญ่เชียร์ตามกระแสและตามแฟชั่น หาใช่ทีมท้องถิ่นของชาวเผ่าแม๊งค์อย่างพวกเขาไม่

        มันจึงกลายเป็นเรื่องที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจผิดมาตลอด

        ฉะนั้น & ฉะนี้

        หากอ่านบทความนี้แล้วถ้ายังมีใครคิดว่าแฟนของซิตี้ในเมืองแมนเชสเตอร์นั้นมีมากกว่า ก็ช่วยบอกเขาสักหน่อย และถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยๆ กันบอกต่อหรือแชร์ต่อหน่อยนะครับ แฟนบอลส่วนใหญ่จะได้เลิกเข้าใจผิดพร้อมกับทราบความจริงเสียทีว่า...

        แมนเชสเตอร์เป็นสีแดงโว้ยยยยย!!!

''บอ.บู๋''

เสื้อบอลใหม่ ฤดูกาล 2015-2016 เอาไปใส่หล่อๆก่อนใครได้แล้วว้นนี้!!!
มีอีกหลายทีม คลิกเลย!!!